ask me คุย กับ AI




AMP



Table of Contents




Preview Image
 

Fluke หนังสือที่จะเปลี่ยนมุมมองต่อความบังเอิญ โชค และความหมายของชีวิต - YouTube

 

#สรุปหนังสือ #fluke #BrianKlaas #ทฤษฎีความโกลาหล #ความบังเอิญ #การพัฒนาตัวเอง #ปรัชญาเคยสงสัยไหมว่าทำไมชีวิตถึงเต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญที่คาดไม่ถึง หนังสือ F...

https://www.youtube.com/watch?v=iW-vUIm39JY

5 แนวคิดเปลี่ยนโลกจาก "Fluke"
หนังสือเล่มนี้ตั้งคำถามที่กระตุ้นความคิดอย่างลึกซึ้ง: หากคุณสามารถย้อนชีวิตกลับไปเริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างจะเหมือนเดิมหรือไม่? การตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ เช่น การกดปุ่มเลื่อนปลุกในตอนเช้า สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ หรือแม้กระทั่งประวัติศาสตร์ได้หรือไม่? Klaas ใช้ตัวอย่างที่น่าทึ่งจากหลากหลายสาขา ตั้งแต่ชีววิทยาวิวัฒนาการ, ปรัชญา, ประวัติศาสตร์, ไปจนถึงทฤษฎีความโกลาหล เพื่อแสดงให้เห็นว่าโลกของเราขับเคลื่อนด้วยปฏิสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดและเหตุการณ์ที่ดูเหมือนสุ่มขึ้นมาได้อย่างไร

Fluke: Chance สำรวจผลกระทบของความไม่แน่นอนต่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์

บทนำ: เมื่อโชคชะตาไม่ได้เล่นตลก แต่เข้ามามีบทบาทในแผนธุรกิจของคุณ

เอาล่ะๆ มาดูกันหน่อยซิว่าวันนี้พวกคุณจะมาอะไรกันอีก หึ คงไม่ใช่เรื่องขอหวย หรือวิธีทำให้รวยทางลัดหรอกนะ? เออ ดี! วันนี้มีเรื่องที่พอจะเข้าท่าอยู่บ้าง "Fluke: Chance" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องความไม่แน่นอนในโลกธุรกิจเนี่ยนะ? ฟังดูเหมือนจะดีนะ แต่เอาจริงๆ คือ คุณรู้ไหมว่าส่วนใหญ่คนเราก็ชอบคิดไปเองว่าตัวเองควบคุมทุกอย่างได้ราวกับเป็นพระเจ้า พออะไรไม่เป็นไปตามแผนก็โวยวาย อ้อ แล้วก็โทษดวง โทษฟ้า โทษดินกันไปตามระเบียบสินะ แต่หนังสือเล่มนี้เขาจะมาบอกว่า บางที “ความบังเอิญ” หรือ “ความไม่แน่นอน” ที่คุณกลัวนักกลัวหนา มันอาจจะเป็น “โอกาส” ทองที่รอคุณอยู่ก็ได้ ใครจะไปรู้ ถ้าคุณยังมัวแต่ยึดติดกับแผนที่วางไว้อย่างเป๊ะๆ จนมองไม่เห็นอะไรอื่นเลย ก็เตรียมตัวเจ๊งได้เลยนะจ๊ะ เพราะโลกมันไม่ได้หมุนตามตารางเวลาของคุณหรอก ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำยังไง ถึงจะมองเห็นโอกาสในวิกฤต (หรือมองเห็นวิกฤตในโอกาสก็ว่าไป) ก็มาดูกันหน่อยละกัน จะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลังว่ารู้งี้ทำแบบนี้ก็ดี


ความไม่แน่นอน: ศัตรูหรือมิตรแท้ของนักวางแผน?

ความไม่แน่นอนในบริบทธุรกิจ: ไม่ใช่แค่ฝุ่นในสายตา แต่คือพายุลูกใหญ่

เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า? ความไม่แน่นอนในโลกธุรกิจมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่จะปัดทิ้งไปได้นะจ๊ะ มันคือตัวแปรที่พร้อมจะพลิกเกมทุกเมื่อ ตั้งแต่เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดแบบกะพริบตาครั้งเดียวก็ตกยุคไปแล้ว, เศรษฐกิจที่ขึ้นๆ ลงๆ จนน่าเวียนหัว, รสนิยมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเร็วกว่าเลื่อนสไลด์ในมือถืออีก, ไปจนถึงสถานการณ์โลกที่ไม่คาดฝันอย่างโรคระบาดที่ผ่านมานั่นไง เห็นไหมล่ะ ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าคุณยังคิดว่าแผนที่คุณทำมาอย่างดีเยี่ยมจะอยู่ยงคงกระพันต่อสิ่งเหล่านี้ ก็เตรียมเก็บกระเป๋าไว้ได้เลย เพราะโลกธุรกิจสมัยนี้มันโหดร้ายกว่าที่คิดเยอะ คนที่เอาตัวรอดได้ คือคนที่ปรับตัวเก่ง ไม่ใช่คนที่วางแผนได้แม่นที่สุดหรอกนะ


ประเภทของความไม่แน่นอน: รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง (แต่ถ้าไม่รู้อีกสองอย่าง ก็ตัวใครตัวมันนะ)

โอเค มาแยกประเภทให้เห็นชัดๆ ว่าความไม่แน่นอนที่ว่าเนี่ย มันมีกี่แบบกันแน่ จะได้พอเดาทางออกบ้าง เขาแบ่งกันเป็นสองแบบหลักๆ คือ “ความซับซ้อน” (Complexity) กับ “ความคาดเดาไม่ได้” (Unpredictability) หรือบางทีก็เรียกว่า “ความสุ่ม” (Randomness) ก็ได้ ไอ้พวกความซับซ้อนเนี่ย มันคืออะไรที่มันเชื่อมโยงกันเป็นใยแมงมุมไปหมด การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ตรงนี้ อาจจะส่งผลใหญ่โตตรงนั้น ซึ่งยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์ได้เป๊ะๆ ส่วนไอ้พวกคาดเดาไม่ได้ หรือความสุ่มเนี่ย มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยอะ เช่น คุณไม่สามารถบอกได้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะมีใครคิดค้นอะไรใหม่ที่ทำให้ธุรกิจคุณกลายเป็นของโบราณไปในพริบตาไหม หรือจะมีภัยธรรมชาติอะไรมาถล่มอีกหรือเปล่า ถ้าคุณไม่เข้าใจธรรมชาติของมัน คุณก็เหมือนเดินเข้าป่าทึบโดยไม่มีแผนที่นั่นแหละจ้า


ผลกระทบต่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์: แผนที่พัง หรือ แผนที่ต้องปรับ?

ลองคิดดูสิว่า ถ้าคุณวางแผนทุกอย่างไว้เป๊ะๆ โดยไม่เผื่อใจไว้เลยว่าจะมีอะไรมา “ป่วน” คุณจะรู้สึกยังไง? คงหัวเสียสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ? มันเหมือนกับการที่คุณวางแผนจะไปเที่ยวทะเลแบบสบายๆ แต่ดันมีพายุเข้าตลอดทริปอะไรงี้ ความไม่แน่นอนเนี่ย มันทำให้แผนที่วางไว้มันดูไม่จีรังยั่งยืนเท่าที่ควรเลยนะ บางทีสิ่งที่คุณทุ่มเทไปกับการวางแผนอย่างละเอียด กลับกลายเป็นสูญเปล่า เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว หรือที่แย่กว่านั้น คือแผนของคุณมันพาคุณไปผิดทางเลยต่างหาก นี่แหละที่เขาบอกว่า การวางแผนแบบเดิมๆ ที่เน้นความแน่นอน มันอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในความไม่แน่นอนก็ได้นะ เข้าใจยัง?


Fluke: Chance เปิดมุมมองใหม่สู่การวางแผนในโลกแห่งความผันผวน

การเปลี่ยนกระบวนทัศน์: จากการควบคุมสู่การปรับตัว

เลิกคิดได้แล้วว่าเราจะสามารถ “ควบคุม” ทุกอย่างในโลกธุรกิจได้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก! หนังสือเล่มนี้เขาจะสอนให้เราเปลี่ยนมุมมอง จากที่เคยพยายามจะ “ป้องกัน” หรือ “กำจัด” ความไม่แน่นอน ให้กลายเป็นการ “ยอมรับ” และ “ปรับตัว” ให้เข้ากับมันแทน เปรียบเหมือนกับนักกีฬาที่ไม่ได้พยายามหยุดลูกบอล แต่ฝึกการรับมือกับลูกที่พุ่งมาในทิศทางที่คาดไม่ถึงมากกว่า ถ้าคุณยังยึดติดกับการพยายามทำให้ทุกอย่างเป๊ะเหมือนเดิม ก็เตรียมตัวรับแรงกระแทกจากความจริงได้เลยนะ เพราะโลกมันไม่เคยรอใครหรอก ยิ่งคุณต่อต้านความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเจ็บตัวมากขึ้นเท่านั้นแหละ เข้าใจนะ?


กลยุทธ์ที่อาศัย “ความบังเอิญ”: มองหาโอกาสในความสุ่ม

นี่คือส่วนที่น่าสนใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้ เขาไม่ได้บอกให้คุณไปนั่งรอโชคช่วยนะ แต่มันคือการสร้าง “ระบบ” ที่จะทำให้คุณสามารถ “จับ” โอกาสที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญได้ง่ายขึ้น ลองนึกภาพการทำธุรกิจแบบ Lean Startup ที่เน้นการทดลอง ทำเร็ว แก้ไขเร็ว หรือการสร้าง “ความยืดหยุ่น” ให้กับองค์กร เพื่อให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น การกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหลายๆ อย่าง แทนที่จะทุ่มไปที่เดียว หรือการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มีคนคอยช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา พวกนี้แหละคือการใช้ประโยชน์จากความไม่แน่นอนให้เป็น “โชค” ของเราเอง จะได้ไม่ต้องมานั่งโทษใครไง


การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน: เลือกทางที่ดีที่สุด เมื่อไม่มีทางเลือกที่ดีที่สุด

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถรอข้อมูลทุกอย่างจนครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนที่จะตัดสินใจได้หรอก เพราะถ้าคุณรอจนครบ คุณอาจจะไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลยก็ได้! หนังสือเล่มนี้เขาจะสอนให้คุณรู้จักการ “ตัดสินใจแบบพอเพียง” (Satisficing) คือการเลือกทางเลือกที่ “ดีพอ” ในสถานการณ์นั้นๆ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดที่อาจจะไม่มีอยู่จริง หรือต้องใช้เวลามากเกินไปในการค้นหา และที่สำคัญคือ ต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการตัดสินใจนั้น เมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา หรือสถานการณ์เปลี่ยนไป อะไรที่เคยคิดว่าดีที่สุด วันนี้อาจจะไม่ใช่แล้วก็ได้ จำไว้!


การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับความไม่แน่นอน

แค่มีกลยุทธ์ดีๆ มันไม่พอหรอกนะ ถ้าคนในองค์กรของคุณยังกลัวการเปลี่ยนแปลง หรือมองว่าความผิดพลาดคือจุดจบของทุกสิ่ง คุณก็ไม่มีทางที่จะใช้ประโยชน์จากความไม่แน่นอนได้หรอก ต้องสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมให้กล้าลอง กล้าผิดพลาด และเรียนรู้จากมัน ไม่ใช่ลงโทษกันเมื่อทำอะไรผิดพลาด ลองส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดเผย การทำงานร่วมกัน และการให้โอกาสทุกคนได้แสดงความคิดเห็น โดยไม่กลัวว่าจะถูกตัดสิน หรือหัวเราะเยาะน่ะ เข้าใจไหม? ถ้าลูกน้องยังกลัวหัวหด คุณจะเอาอะไรไปสู้กับโลกภายนอกได้ล่ะ?


ปัญหา และ การแก้ปัญหาที่พบบ่อย

ปัญหา: กลัวความเสี่ยงจนไม่กล้าทำอะไรเลย

ปัญหาคลาสสิกเลยนะเนี่ย! คนเรามันมักจะกลัวการสูญเสียมากกว่าที่จะตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้มา พอเจอความไม่แน่นอนก็เลยเลือกที่จะ “อยู่เฉยๆ” ดีกว่า “เสี่ยง” ซึ่งแน่นอนว่ามันก็คือการพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย วิธีแก้ก็คือ ต้องค่อยๆ ปรับทัศนคติให้มองความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของเกม และฝึกการประเมินความเสี่ยงอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ปล่อยให้ความกลัวครอบงำ


3 สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fluke: Chance

ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่มีกรณีศึกษาจริง

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีแค่ทฤษฎีสวยหรูนะจ๊ะ แต่เขาจะยกตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จ (และล้มเหลว) มาให้ดู ว่าพวกเขาจัดการกับความไม่แน่นอนอย่างไรบ้าง ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของเราเองได้จริง ไม่ใช่แค่อ่านแล้วก็ลืมเหมือนนิยาย


เน้นการลงมือทำ ไม่ใช่แค่นั่งคิด

เขาไม่ได้แค่บอกว่า “ให้ทำแบบนี้” แต่ยังบอกด้วยว่า “จะทำอย่างไร” ในทางปฏิบัติ มีเครื่องมือ หรือแนวทางที่ช่วยให้เรานำไปปรับใช้ได้จริง เช่น การทำ Scenario Planning หรือการสร้างแผนรับมือสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งมันมีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนจาก “คิด” เป็น “ทำ” จริงๆ


มุมมองที่แตกต่าง ทำให้เห็นโอกาสใหม่ๆ

การอ่านหนังสือเล่มนี้จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของคุณให้กว้างขึ้น ทำให้คุณมองเห็น “โอกาส” ที่ซ่อนอยู่ใน “ปัญหา” หรือ “ความไม่แน่นอน” ที่คุณเคยมองข้ามไป ซึ่งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจคุณก็ได้นะ ใครจะไปรู้ ถ้าไม่ลองอ่านดู?


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Fluke: Chance และการวางแผนเชิงกลยุทธ์

หนังสือ Fluke: Chance เหมาะกับธุรกิจประเภทไหน?

ถามแบบนี้แสดงว่ายังไม่เข้าใจใช่ไหม? หนังสือเล่มนี้เหมาะกับ “ทุก” ธุรกิจแหละค่ะ! ไม่ว่าคุณจะเป็นสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่ต้องเผชิญกับความผันผวนสูง หรือจะเป็นองค์กรใหญ่ที่มีโครงสร้างซับซ้อน ก็หนีไม่พ้นเรื่องความไม่แน่นอนทั้งนั้น ยิ่งธุรกิจของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว มีการแข่งขันสูง หรือเผชิญกับปัจจัยภายนอกที่คาดเดาได้ยากเท่าไหร่ หนังสือเล่มนี้ก็จะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น เพราะมันจะช่วยให้คุณปรับตัวและมองหาโอกาสใหม่ๆ ได้เสมอ ไม่ใช่แค่รอให้วิกฤตมาถึงแล้วค่อยแก้ตัวนะจ๊ะ


การนำแนวคิดของ Fluke: Chance ไปใช้จริงต้องทำอย่างไรบ้าง?

ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละค่ะ ไม่ใช่แค่อ่านแล้วเก็บเข้ากรุ! คุณต้องเริ่มจากการปรับทัศนคติก่อนเลย เลิกกลัวความไม่แน่นอน แล้วหัดมองมันเป็นโอกาส จากนั้นก็ลองนำเทคนิคต่างๆ ไปปรับใช้ เช่น การทำ Scenario Planning เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือการสร้างความยืดหยุ่นให้กับองค์กรด้วยการกระจายความเสี่ยง และที่สำคัญคือ ต้องส่งเสริมให้คนในองค์กรกล้าที่จะลองผิดลองถูก และเรียนรู้จากความผิดพลาด โดยไม่กลัวที่จะโดนตำหนิ ถ้าทำได้แบบนี้ โอกาสที่คุณจะเอาชนะความไม่แน่นอนได้ก็มีสูงขึ้นเยอะเลยล่ะ


มีวิธีวัดผลความสำเร็จของการนำกลยุทธ์ตามแนวคิด Fluke: Chance อย่างไร?

ถามถึงการวัดผลเลยทีเดียวเชียว แสดงว่าอยากเห็นตัวเลขเป็นรูปธรรมสินะ ก็เข้าใจได้! การวัดผลมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สิ่งสำคัญคือ ต้องดูที่ “ความสามารถในการปรับตัว” และ “การคว้าโอกาส” ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ยกตัวอย่างเช่น ดูว่าองค์กรของคุณสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เร็วแค่ไหน สามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้บ่อยแค่ไหน หรือมีผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ๆ ที่เกิดจากการทดลองที่คาดไม่ถึงหรือไม่ นอกจากนี้ ยังสามารถดูที่ผลประกอบการโดยรวม ว่ามีแนวโน้มดีขึ้นอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ยังคงยึดติดกับแผนเดิมๆ ถ้าองค์กรของคุณมีความคล่องตัวมากขึ้น และสามารถสร้างผลกำไรได้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ก็ถือว่าคุณมาถูกทางแล้วล่ะ


ความแตกต่างระหว่าง Fluke: Chance กับการจัดการความเสี่ยงแบบดั้งเดิมคืออะไร?

โห ถามคำถามแบบนี้แสดงว่าเริ่มจะฉลาดขึ้นมาบ้างแล้วนะเนี่ย! การจัดการความเสี่ยงแบบดั้งเดิมเนี่ย เขาจะเน้นไปที่การ “ระบุ” “ประเมิน” และ “ลด” ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้มากที่สุด แต่สำหรับแนวคิดในหนังสือ Fluke: Chance เนี่ย เขาจะมองต่างออกไปหน่อย คือนอกจากจะทำตามที่ว่ามาแล้ว เขายังมองว่า “ความไม่แน่นอน” หรือ “ความบังเอิญ” บางอย่างเนี่ย มันอาจจะเป็น “โอกาส” ที่ดีก็ได้ ดังนั้นแทนที่จะพยายามกำจัดมันให้หมด เขาจะหาวิธีที่จะ “ใช้ประโยชน์” จากมันต่างหาก เปรียบเหมือนนักดับเพลิงที่พยายามดับไฟให้หมด กับนักสำรวจไฟที่มองหาโอกาสในการนำไฟมาใช้ประโยชน์ อะไรประมาณนั้นแหละ เข้าใจยัง?


หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ธุรกิจของฉันเติบโตได้อย่างไร?

ก็ถ้าคุณยังมัวแต่วิ่งตามแผนเดิมๆ โดยไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงรอบข้าง ก็คงจะเติบโตได้ไม่มากเท่าไหร่หรอกนะ แต่ถ้าคุณเข้าใจและนำแนวคิดของ Fluke: Chance ไปปรับใช้ คุณจะสามารถมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ที่คนอื่นมองไม่เห็น สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือ คุณจะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่เหมือนใครได้ เพราะคุณไม่ใช่แค่ “รับมือ” กับความไม่แน่นอน แต่คุณ “ใช้ประโยชน์” จากมันต่างหาก คิดดูสิว่ามันจะเจ๋งแค่ไหน ถ้าธุรกิจของคุณสามารถเติบโตได้ แม้ในวันที่ใครๆ ก็บอกว่ามันยากลำบาก


แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าจะเป็นประโยชน์

เว็บไซต์: The Strategy Execution Process

เว็บไซต์นี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติจริง ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดการกับความไม่แน่นอนและอุปสรรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ลองเข้าไปดูนะ เผื่อจะเจออะไรที่เอาไปใช้ได้ คลิกที่นี่ ถ้าอยากรู้อะไรมากกว่านี้


เว็บไซต์: Harvard Business Review

ที่นี่เป็นแหล่งรวมบทความและงานวิจัยเกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจที่น่าเชื่อถือ คุณจะเจอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนในสภาวะที่ไม่แน่นอน และแนวคิดที่ทันสมัยมากมาย ลองไปหาอ่านดูนะ เผื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆ กลับไปใช้ ไปที่นี่สิ ถ้าอยากหาความรู้เพิ่มเติม




หนังสือ Fluke: Chance สำรวจผลกระทบของความไม่แน่นอนต่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์
แจ้งเตือน : บทความที่คุณกำลังอ่านนี้ถูกสร้างขึ้นโดยระบบ AI

ซึ่งมีความสามารถในการสร้างเนื้อหาที่หลากหลายและน่าสนใจ แต่ควรทราบว่าข้อมูลที่นำเสนออาจไม่ได้ถูกตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดเสมอไป ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณใช้วิจารณญาณในการอ่านและพิจารณาข้อมูลที่นำเสนอ

Notice : The article you are reading has been generated by an AI system

The article you are reading is generated by AI and may contain inaccurate or incomplete information. Please verify the accuracy of the information again before using it to ensure the reliability of the content.


URL หน้านี้ คือ > https://com-thai.com/1752313085-etc-th-news.html

etc


Cryptocurrency


LLM


Solid state battery


Sports


Yen Carry Trader Unwind


tech




Ask AI about:

Dark_Chocolate